4 เคล็ดลับการเลือกใช้เครื่องกรองอากาศในบ้านให้ตอบโจทย์มีอะไรบ้าง?
ปัจจุบันฝุ่นหรือมลพิษนั้นมีอยู่แทบจะทุกที่ ไม่ใช่แค่นอกบ้านที่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในวันที่ฝุ่นหนักๆ แต่ในบ้านเองก็เป็นอะไรที่มองข้ามไปไม่ได้ แม้ว่าบางบ้านจะเป็นระบบปิด มีประตูและหน้าต่างมิดชิด แต่ฝุ่นต่างๆ ในตอนนี้มีอนูเล็กมาก ดังนั้นตัวช่วยที่เริ่มกลับมาได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มคนรักบ้านนั่นก็คือเครื่องกรองอากาศ ที่นอกจากจะเข้ามาช่วยกรองฝุ่น ลดอาการภูมิแพ้ และดูแลสุขภาพของสมาชิกในบ้านได้แบบระยะยาวแล้ว วิธีการเลือกซื้อเครื่องกรองอากาศจะมีอะไรที่ควรให้ความสำคัญบ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝาก
- เลือกให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่
แน่นอนว่าถ้าหากเป็นการเลือกใช้เครื่องกรองอากาศภายในบ้าน แนะนำให้คำนึงถึงห้องหรือบริเวณบ้านที่ต้องการจะนำเครื่องกรองอากาศไปตั้ง ควรมีความสัมพันธ์กัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหากในบ้านหรือห้องที่ต้องการติดตั้งเครื่องกรองอากาศมีพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร สเปคของเครื่องกรองอากาศก็อาจจะต้องเป็นเสปคที่แตกต่างจากเครื่องกรองอากาศที่ใช้ในห้องนั่งเล่นขนาด 40 ตารางเมตร เพื่อไม่ให้เครื่องกรองอากาศทำงานหนักมากเกินจนทำให้ประสิทธิภาพการฟอกอากาศเป็นไปได้น้อยลงนั่นเอง
- การเลือกไส้กรอง
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการเลือกซื้อเครื่องกรองอากาศให้ใช้งานตามความเหมาะสมนั่นก็คือการรู้จักเลือกไส้กรองให้ดีและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามเครื่องกรองอากาศที่ดีจะต้องมีฟีเจอร์การกรองอากาศที่ทันสมัย ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่นเทคโนโลยี HEPA ทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้เป็นอย่างดี กรองฝุ่นหรือมลพิษต่างๆ ตลอดไปจนถึงช่วยลดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสต่างๆ ที่อาจลอยมาพร้อมกับฝุ่นได้อีกด้วย
- ลูกเล่นหรือฟังก์ชันเสริม
เครื่องกรองอากาศก็เปรียบได้กับ Gadget ประเภทหนึ่ง อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งเคล็ดลับของการเลือกซื้อเครื่องกรองอากาศนั่นก็คือให้ดูลูกเล่นหรือฟังก์ชันเสริมว่าเป็นอย่างไร เหมาะแก่การใช้งานของเราหรือไม่ สำหรับฟีเจอร์แบบง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่นระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง เซนเซอร์ที่ช่วยวัดคุณภาพอากาศ หรือถ้าหากเป็นเครื่องกรองอากาศที่สามารถเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันได้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
- ระดับความดังของเสียง
ถ้าหากคุณคือผู้ใช้งานที่มองหาเครื่องกรองอากาศเพื่อเอาไว้ใช้งานในห้องนอนโดยเฉพาะ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบ Sleep mode สำหรับการนอนหลับโดยเฉพาะ เพื่อลดมลภาวะทางเสียงและไม่ไปรบกวนการนอนหลับนั่นเอง
ในท้ายที่สุดแล้วนอกจากที่เครื่องกรองอากาศจะเป็นหนึ่งใน Gadget ที่น่าลงทุนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำคือให้ประเมินจากเรื่องของการประหยัดไฟ เพราะเมื่อถึงเวลาจริงๆ แล้วอาจจำเป็นต้องเปิดใช้งานเครื่องกรองอากาศแทบจะทั้งวัน หากได้เครื่องกรองอากาศที่ช่วยประหยัดไฟได้ก็จะดีมาก