4 ทิปส์ดีๆ ที่จะทำให้การพาลูกไปหาหมอกุมารเวชเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม
ในฐานะคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว เราเชื่อว่าคงไม่มีภารกิจไหนที่จะยากเท่ากับการพาลูกน้อยไปพบหมอกุมารเวชที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ลูกของเราเริ่มที่จะเรียนรู้แล้วว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามาโรงพยาบาลนั้น เขาจะต้องเจ็บตัวจากการฉีดวัคซีน หรือไม่ก็โดนคนรอบข้างดุอยู่เสมอ ในเมื่อการพาบุตรหลานไปพบหมอเด็กทั้งเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนและเข้ารับการรักษาจะเป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็สามารถทำให้ทุกอย่างราบรื่นได้กว่าที่เคยหากเรามีการเตรียมตัวที่ดี และเพื่อเป็นการช่วยให้พ่อแม่ทุกคนรับมือกับทุกสถานการณ์ในระหว่างการพาลูกน้อยไปพบหมอกุมารเวชได้อย่างถูกต้อง วันนี้เราเลยอยากจะมาแบ่งปัน 4 ทิปส์ดีๆ ตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้
เล่นบทบาทจำลองสถานการณ์กับลูก
หากพ่อแม่คนไหนมีเวลา วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ลูกเข้าใจขั้นตอนการไปพบหมอกุมารเวช อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญต่อการสร้างความคุ้นเคยเพื่อให้เด็กคุ้นชินและไม่กลัวการพบหมอหรือพยาบาลได้แก่การเล่นบทบาทจำลองสถานการณ์กับลูก โดยอาจจะให้คุณพ่อหรือคุณแม่รับบทเป็นคุณหมอและพยาบาล ในขณะที่ตัวลูกเป็นคนไข้ หรืออาจจะสลับบทบาทกันก็ได้เพื่อให้ลูกได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งการทำกิจกรรมในลักษณะนี้นับว่าเป็นตัวช่วยที่นอกจากทำให้เด็กมีความกล้าที่จะไปเจอหมอมากขึ้นแล้ว ทุกคนยังสามารถใช้โอกาสดังกล่าวทำกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างกันในครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้นได้อีกด้วย
บอกกับเด็กตามจริงว่าเราจะพาเขาไปโรงพยาบาล
เพื่อให้การพาลูกไปพบหมอกุมารเวชเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว พ่อแม่หลายคนึงเลือกที่จะบอกลูกว่าเรากำลังจะพาเขาไปเที่ยวนอกบ้านแทนที่จะบอกเขาไปตรงๆ ว่าเรากำลังจะพาเขาไปโรงพยาบาล ซึ่งในความเป็นจริง การโกหกลูกเช่นนี้อาจจะช่วยให้พ่อแม่สะดวกขึ้นในครั้งนี้ แต่หลังจากนั้นเด็กจะไม่เชื่อใจจนถึงขั้นร้องไห้งอแงหนักกว่าเดิมเพราะกลัวจะโดนพ่อแม่หลอกอีก และจากสาเหตุข้อนี้เอง เราจึงอยากให้พ่อแม่บอกกับลูกตรงๆ ก่อนถึงเวลาพาเขาไปโรงพยาบาลล่วงหน้าสัก 2-3 วันเพื่อให้เขาทำใจ พร้อมกับใช้คำพูดปลอบประโลมอย่างอ่อนโยนว่าหลังจากที่เขาไปโรงพยาบาลนั้น ร่างกายของเขาจะแข็งแรง และสามารถเล่นสนุกกับเพื่อนๆ ได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะไม่สบาย เป็นต้น
พยายามหลีกเลี่ยงการขู่
ในกรณีที่ไปถึงหน้างานแล้วลูกเกิดอาการงอแงไม่อยากเข้าพบหมอขึ้นมา เราอยากจะให้พ่อแม่ใช้คำพูดให้กำลังใจ, ชื่นชม หรือไม่ก็ยกตัวอย่างว่าหลังจากที่มาหาหมอแล้วลูกจะหายดี แทนการพูดขู่ว่าถ้าซนแบบนี้เดี๋ยวคุณหมอจะจับฉีดยา หรือไม่ก็ถ้าซนแบบนี้เดี๋ยวคุณหมอจะดุหรือตีนะ เพราะนอกจากจะทำให้เด็กต่อต้านมากขึ้น การขู่ในลักษณะดังกล่าวยังจะทำให้เด็กกังวลมากกว่าเดิมจนทำให้แพทย์ทำงานยากขึ้นในท้ายที่สุด
เตรียมขนมหรือของเล่นให้พร้อม
เนื่องจากคลินิกและโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่มีคนจำนวนมากรอเข้ารับบริการในแต่ละวัน ดังนั้นการเตรียมขนมหรือของเล่นไว้ให้ลูกน้อยได้เพลิดเพลินในระหว่างการรอเข้าพบหมอกุมารเวชจึงเป็นอีกวิธีที่จะช่วยไม่ให้ลูกเบื่อหรือเกิดงอแงระหว่างรอได้